แผนการจัดการเรียนรู้เฉพาะบุคคล
(Individual
Implementation Plan : IIP)
ชื่อผู้เรียน นายกริชกำพล ชัยเนตร
ระดับ ประถมศึกษา ประเภทความพิการ บกพร่องทางสติปัญญา
ศูนย์
กศน.อำเภอ/เขต
เมืองลำปาง สาระวิชา คณิตศาสตร์
วันเริ่มจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1
พฤศจิกายน 2558 วันสิ้นสุดการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
29 กุมภาพันธ์ 2559
ครั้งที่
4
สาระสำคัญ
หลักของตัวเลขเรียงตามลำดับจากหลักทางขวาไปซ้าย
ได้แก่ หลักหน่วย หลักสิบ หลักร้อย หลักพัน หลักหมื่น หลักแสน หลักล้าน
หลักสิบล้าน .... ตัวเลข เป็นสัญลักษณ์ที่ใช้แทนจำนวน
จะมีค่าเท่าใดขึ้นอยู่กับตำแหน่งหรือหลักของตัวเลขนั้นอยู่ ค่าประจำหลัก
เป็นค่าของหลักต่างๆ ในแต่ละหลัก จะมีค่าเป็น 10 เท่าของค่าประจำหลักที่อยู่ถัดไปทางขวามือ การหาค่าของตัวเลขในหลักต่างๆ
ทำได้โดยนำตัวเลขนั้นคูณกับค่าประจำหลัก จำนวนนับที่มีหลายหลัก
ตัวเลขแต่ละตัวจะมีค่าประจำหลักแตกต่างกัน
เนื้อหา
การเขียนจํานวนในรูปกระจาย
จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม
นายกริชกำพล ชัยเนตร สามารถเขียนจํานวนในรูปกระจายได้อย่างน้อย
5 ข้อจากทั้งหมด 10 ข้อ
กระบวนการจัดการเรียนรู้
ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน
1. ครูทักทาย“สวัสดี”นักเรียนสอบถามความรู้ในสัปดาห์ที่ผ่านมา
2. ครูให้นักเรียนเขียนตัวเลขตามคำบอกของครูแล้วให้อ่านตามตัวเลขนั้นพร้อมให้นักเรียนลองเขียนในรูปกระจายตามคำอ่านเช่น
35 อ่านว่า สามสิบห้าหรือในรูปกระจาย 30+5เป็นต้น
3. ครูนำแบบทดสอบก่อนเรียนให้นักเรียนทำ
ขั้นจัดกิจกรรมการเรียนรู้
1. ครูแจกใบความรู้เรื่องการเขียนจํานวนในรูปกระจายกับอธิบายไปพร้อมกัน
2. ครูให้นักเรียนฝึกเขียน
การเขียนจํานวนในรูปกระจาย
พร้อมให้นักเรียนฝึกอ่าน
3. ครูนำใบงานที่เตรียมมาแจกให้นักเรียนทำพร้อมกับตรวจไปด้วยพร้อมกัน
4.
ครูแจกแบบทดสอบหลังเรียนให้นักเรียนทดสอบ
ขั้นสรุป
ครูและนักเรียนร่วมสรุปเนื้อหา
การเขียนจํานวนในรูปกระจาย
สื่อการจัดการเรียนรู้
-
ใบความรู้
- ใบงาน
-
บัตรภาพ
สิ่งเสริมแรงที่ใช้
-
ปรบมือ
-
คำชม
การวัดผลประเมินผล
1 วิธีการวัดผล
- การสังเกต
- การตอบคำถาม
- ใบงาน
2 เครื่องมือที่ใช้
-
แบบฝึกหัด
3 เกณฑ์การประเมิน
-
ไม่ผ่าน นักเรียนไม่สามารถเขียนจํานวนในรูปกระจายได้อย่างน้อย
5 ข้อจากทั้งหมด 10 ข้อได้
-
ผ่าน นักเรียนสามารถเขียนจํานวนในรูปกระจายได้อย่างน้อย
5 ข้อจากทั้งหมด 10 ข้อได้
แผนการจัดการเรียนรู้เฉพาะบุคคล
(Individual Implementation
Plan : IIP)
ชื่อผู้เรียน นายมานพ
ไชยชนะ ระดับ ประถมศึกษา ประเภทความพิการ บกพร่องทางร่างกาย
ศูนย์
กศน.อำเภอ/เขต เมืองลำปาง สาระวิชา คณิตศาสตร์
วันเริ่มจัดกิจกรรมการเรียนรู้
1 พฤศจิกายน 2558 วันสิ้นสุดการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
29 กุมภาพันธ์ 2559
ครั้งที่ 4
สาระสำคัญ
จำนวนสองจำนวนที่นำมาบวกกัน
สามารถสลับที่กันได้ จะได้ผลบวกเท่ากัน เรียกว่า สมบัติการสลับที่ของการบวก
จำนวนสามจำนวนที่นำมาบวกกันจะบวกจำนวนที่หนึ่งกับจำนวนที่สองก่อน
หรือบวกจำนวนที่สองกับจำนวนที่สามก่อน แล้วจึงไปบวกกับจำนวนที่เหลือ
ผลบวกย่อมเท่ากัน เรียกว่า สมบัติการเปลี่ยนหมู่ของการบวก
เนื้อหา
สมบัติการสลับที่ของการบวก
จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม
นายมานพ
ไชยชนะ สามารถบวกและการลบจำนวนเต็มได้ 8 ข้อ จากทั้งหมด 10 ข้อ
กระบวนการจัดการเรียนรู้
ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน
1. ครูทักทาย“สวัสดี”ทบทวนการเขียนจํานวนในรูปกระจายและการเรียงลําดับจํานวนในสัปดาห์ที่ผ่านมา
2. ครูนำตัวเลขที่เตรียมมาเช่น 12
+ 4 =16 และ 4 + 12 = 16 พร้อมถามนักเรียนว่าทำไมถึงได้คำตอบเท่ากัน
พร้อมกับอธิบายถึงสมบัติการสลับที่ของการบวก
3. ครูนำแบบทดสอบก่อนเรียนให้นักเรียนทำ
ขั้นจัดกิจกรรมการเรียนรู้
1. ครูแจกใบความรู้เรื่องการบวกและการลบให้กับนักเรียนพร้อมกับอธิบายการบวกที่มีผลบวกเท่ากันและใช้สมบัติการสลับที่
ของการบวก
2. ครูเขียนตัวเลขการบวกบนกระดานเช่น 825 + 47 = ...... + 825 แล้วให้นักเรียนเติมจำนวนที่ทำให้ผลบวกเท่ากัน
นักเรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง
3. ครูเขียนตัวเลขการบวกจำนวน 3จำนวนบนกระดานเช่น 84 + 17 + 36
= ........ แล้วถามนักเรียนว่าควรบวกจำนวนคู่ใดก่อน (84 + 36)และต้องทำอย่างไรจึงจะทราบว่าการบวกจำนวน
84 กับ 36 ก่อน (ใส่วงเล็บ)
เขียนเป็นประโยคการบวกได้
((84
+ 36) + 17 = …… )พร้อมกับเขียนแสดงวิธีหาคำตอบได้ ดังตัวอย่างเช่น 84 + 17 + 36 =
(84 + 36) + 17
= 120 +
17= 137
4.ครูแจกใบงานพร้อมกับแบบฝึกหัดท้ายบทเรียน
ขั้นสรุป
ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเพื่อสรุปว่าจำนวนสองจำนวนที่นำมาบวกกัน
สามารถสลับที่กันได้โดยผลบวกยังเท่าเดิม เรียกว่า สมบัติการสลับที่ของการบวก
สื่อการจัดการเรียนรู้
-
ใบความรู้
- ใบงาน
- อินเตอร์เน็ต
- บัตรตัวเลข
สิ่งเสริมแรงที่ใช้
-
ปรบมือ
-
คำชม
การวัดผลประเมินผล
1 วิธีการวัดผล
- การสังเกต
- การตอบคำถาม
- ใบงาน
2 เครื่องมือที่ใช้
- แบบฝึกหัด
3 เกณฑ์การประเมิน
-
ไม่ผ่าน นักเรียนไม่สามารถบวกและการลบจำนวนเต็มได้
8 ข้อ จากทั้งหมด 10 ข้อ
-
ผ่าน นักเรียนสามารถบวกและการลบจำนวนเต็มได้ 8
ข้อ จากทั้งหมด 10 ข้อ
แผนการจัดการเรียนรู้เฉพาะบุคคล
(Individual Implementation
Plan : IIP)
ชื่อผู้เรียน
น.ส.มณฑาวดี ตาจีน ระดับ ประถมศึกษา
ประเภทความพิการ บกพร่องทางการได้ยิน
ศูนย์
กศน.อำเภอ/เขต เมืองลำปาง สาระวิชา คณิตศาสตร์
วันเริ่มจัดกิจกรรมการเรียนรู้
1 พฤศจิกายน 2558 วันสิ้นสุดการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
29 กุมภาพันธ์ 2559
ครั้งที่ 4
สาระสำคัญ
จำนวนสองจำนวนที่นำมาบวกกัน
สามารถสลับที่กันได้ จะได้ผลบวกเท่ากัน เรียกว่า สมบัติการสลับที่ของการบวก
จำนวนสามจำนวนที่นำมาบวกกันจะบวกจำนวนที่หนึ่งกับจำนวนที่สองก่อน
หรือบวกจำนวนที่สองกับจำนวนที่สามก่อน แล้วจึงไปบวกกับจำนวนที่เหลือ
ผลบวกย่อมเท่ากัน เรียกว่า สมบัติการเปลี่ยนหมู่ของการบวก
เนื้อหา
สมบัติการสลับที่ของการบวก
จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม
น.ส.มณฑาวดี ตาจีน สามารถเขียนคุณสมบัติของการสลับที่ของการบวกได้อย่างน้อย
5 ข้อจากทั้งหมด 10 ข้อ
กระบวนการจัดการเรียนรู้
ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน
1. ครูทักทาย“สวัสดี”และตรวจใบงานที่ได้ให้เป็นการบ้านเพื่อทบทวนบทเรียนที่ผ่านมา
2. ครูเขียนตัวเลขที่เตรียมมาเช่น 12 + 4 = 16 และ 4 + 12 = 16 พร้อมถามนักเรียนว่าทำไมถึงได้คำตอบเท่ากัน
พร้อมกับอธิบายถึงสมบัติการสลับที่ของการบวกให้กับนักเรียน
3. ครูนำแบบทดสอบก่อนเรียนให้นักเรียนทำ
ขั้นจัดกิจกรรมการเรียนรู้
1. ครูแจกใบความรู้เรื่องสมบัติการสลับที่ของการบวกให้กับนักเรียนพร้อมกับอธิบายเนื้อหาไปพร้อมกัน
2. ครูเขียนตัวเลขการบวกบนกระดานเช่น 825 + 47 = ...... + 825 แล้วให้นักเรียนเติมจำนวนที่ทำให้ผลบวกเท่ากัน
นักเรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง
3. ครูแจกใบงานพร้อมกับแบบฝึกหัดท้ายบทเรียน
ขั้นสรุป
ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเพื่อสรุปว่าจำนวนสองจำนวนที่นำมาบวกกัน
สามารถสลับที่กันได้โดยผลบวกยังเท่าเดิม เรียกว่า สมบัติการสลับที่ของการบวก
สื่อการจัดการเรียนรู้
-
ใบความรู้
- ใบงาน
- อินเตอร์เน็ต
- บัตรตัวเลข
สิ่งเสริมแรงที่ใช้
-
ปรบมือ
-
คำชม
การวัดผลประเมินผล
1 วิธีการวัดผล
- การสังเกต
- การตอบคำถาม
- ใบงาน
2 เครื่องมือที่ใช้
- แบบฝึกหัด
3 เกณฑ์การประเมิน
-
ไม่ผ่าน นักเรียนไม่สามารถเขียนจำนวนในรูปการกระจายและการเรียงลําดับจํานวน ได้ 5 ข้อ จากทั้งหมด 10 ข้อ
-
ผ่าน นักเรียนสามารถเขียนจำนวนในรูปการกระจายและการเรียงลําดับจํานวน
ได้ 5 ข้อ จากทั้งหมด 10 ข้อ
แผนการจัดการเรียนรู้เฉพาะบุคคล
(Individual Implementation
Plan : IIP)
ชื่อผู้เรียน นางอรทัย แก้วกินี ระดับ ประถมศึกษา ประเภทความพิการ บกพร่องทางร่างกาย
ศูนย์
กศน.อำเภอ/เขต เมืองลำปาง สาระวิชา คณิตศาสตร์
วันเริ่มจัดกิจกรรมการเรียนรู้
1 พฤศจิกายน 2558 วันสิ้นสุดการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
29 กุมภาพันธ์ 2559
ครั้งที่ 4
สาระสำคัญ
จำนวนสองจำนวนที่นำมาบวกกัน
สามารถสลับที่กันได้ จะได้ผลบวกเท่ากัน เรียกว่า สมบัติการสลับที่ของการบวก
จำนวนสามจำนวนที่นำมาบวกกันจะบวกจำนวนที่หนึ่งกับจำนวนที่สองก่อน
หรือบวกจำนวนที่สองกับจำนวนที่สามก่อน แล้วจึงไปบวกกับจำนวนที่เหลือ
ผลบวกย่อมเท่ากัน เรียกว่า สมบัติการเปลี่ยนหมู่ของการบวก
เนื้อหา
สมบัติการสลับที่ของการบวก
จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม
นางอรทัย แก้วกินี สามารถบวกและการลบจำนวนเต็มได้ 8 ข้อ จากทั้งหมด 10 ข้อ
กระบวนการจัดการเรียนรู้
ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน
1. ครูทักทาย“สวัสดี”ทบทวนการเขียนจํานวนในรูปกระจายและการเรียงลําดับจํานวนในสัปดาห์ที่ผ่านมา
2. ครูนำตัวเลขที่เตรียมมาเช่น 12
+ 4 =16 และ 4 + 12 = 16 พร้อมถามนักเรียนว่าทำไมถึงได้คำตอบเท่ากัน
พร้อมกับอธิบายถึงสมบัติการสลับที่ของการบวก
3. ครูนำแบบทดสอบก่อนเรียนให้นักเรียนทำ
ขั้นจัดกิจกรรมการเรียนรู้
1. ครูแจกใบความรู้เรื่องการบวกและการลบให้กับนักเรียนพร้อมกับอธิบายการบวกที่มีผลบวกเท่ากันและใช้สมบัติการสลับที่
ของการบวก
2. ครูเขียนตัวเลขการบวกบนกระดานเช่น 825 + 47 = ...... + 825 แล้วให้นักเรียนเติมจำนวนที่ทำให้ผลบวกเท่ากัน
นักเรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง
3. ครูเขียนตัวเลขการบวกจำนวน 3จำนวนบนกระดานเช่น 84 + 17 + 36
= ........ แล้วถามนักเรียนว่าควรบวกจำนวนคู่ใดก่อน (84 + 36)และต้องทำอย่างไรจึงจะทราบว่าการบวกจำนวน
84 กับ 36 ก่อน (ใส่วงเล็บ)
เขียนเป็นประโยคการบวกได้
((84
+ 36) + 17 = …… )พร้อมกับเขียนแสดงวิธีหาคำตอบได้ ดังตัวอย่างเช่น 84 + 17 + 36 =
(84 + 36) + 17
= 120 +
17= 137
4.ครูแจกใบงานพร้อมกับแบบฝึกหัดท้ายบทเรียน
ขั้นสรุป
ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเพื่อสรุปว่าจำนวนสองจำนวนที่นำมาบวกกัน
สามารถสลับที่กันได้โดยผลบวกยังเท่าเดิม เรียกว่า สมบัติการสลับที่ของการบวก
สื่อการจัดการเรียนรู้
-
ใบความรู้
- ใบงาน
- อินเตอร์เน็ต
- บัตรตัวเลข
สิ่งเสริมแรงที่ใช้
-
ปรบมือ
-
คำชม
การวัดผลประเมินผล
1 วิธีการวัดผล
- การสังเกต
- การตอบคำถาม
- ใบงาน
2 เครื่องมือที่ใช้
- แบบฝึกหัด
3 เกณฑ์การประเมิน
-
ไม่ผ่าน นักเรียนไม่สามารถบวกและการลบจำนวนเต็มได้
8 ข้อ จากทั้งหมด 10 ข้อ
-
ผ่าน นักเรียนสามารถบวกและการลบจำนวนเต็มได้ 8
ข้อ จากทั้งหมด 10 ข้อ
แผนการจัดการเรียนรู้เฉพาะบุคคล
(Individual
Implementation Plan : IIP)
ชื่อผู้เรียน น.ส.ทองเพียร เพร็ชตาบุตร ระดับ ประถมศึกษา ประเภทความพิการ บกพร่องทางร่างกาย
ศูนย์
กศน.อำเภอ/เขต
เมืองลำปาง สาระวิชา วิทยาศาสตร์
วันเริ่มจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1
พฤศจิกายน 2558 วันสิ้นสุดการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
29 กุมภาพันธ์ 2559
ครั้งที่ 4
สาระสำคัญ
พืชก็คือสิ่งมีชีวิตที่สามารถสังเคราะห์อาหาร
เองได้ด้วยวิธีการดูดซับพลังงานจากดวงอาทิตย์ และธาตุอาหาร จากปัจจัยแวดล้อม
(โดยเฉพาะ ดิน น้ำ และบรรยากาศ) มาสังเคราะห์แสงเพื่อ ก่อให้เกิดอินทรีย์วัตถุอินทรีย์วัตถุส่วนหนึ่งจะถูกนำมาสลายโดยขบวนการหายใจและเมตาโบลิซึม
เพื่อนำ พลังงานออกมาใช้ในกิจกรรมต่าง ๆ อีกส่วนหนึ่งมีการสะสมไว้และถ่ายทอดไป ยังสัตว์
นอกจากนั้นยังมีส่วนที่สะสมในเมล็ดและส่วนสืบพันธุ์เพื่อการขยายพันธุ์ต่อไป
เนื้อหา
พืชและการขยายพันธ์พืช
จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม
น.ส.ทองเพียร เพร็ชตาบุตร สามารถอธิบายส่วนประกอบของพืชและหน้าที่ต่างๆของพืชได้
กระบวนการจัดการเรียนรู้
ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน
1. ครูทักทาย“สวัสดี”นักเรียนสอบถามเนื้อหาในสัปดาห์ที่ผ่านมา
2. ครูซักถาม พูดคุย และได้ให้นักเรียนดูต้นมะเขือที่นักเรียนปลูกไว้ที่ส่วนครัวและถามว่าในต้นมะเขือต้นนี้นักเรียนทราบหรือไมว่ามีส่วนประกอบอะไรบ้าง
3. ครูนำแบบทดสอบก่อนเรียนให้นักเรียนทดสอบ
ขั้นจัดกิจกรรมการเรียนรู้
1.
ครูนำรูปภาพพืชและต้นดอกไม้ชนิดต่างๆมาให้นักเรียนดูว่ามีส่วนประกอบอะไรบ้าง
2.
ครูแจกใบความรู้เรื่องพืชและการขยายพันธ์พืชให้แก่นักเรียนพร้อมอธิบายเนื้อหาและยกตัวอย่างให้นักเรียนดู
3.
ครูให้นักเรียนวาดภาพพืชพร้อมบอกหน้าที่ต่างๆแล้วออกมาเสนอหน้าห้อง
4.
ครูให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดท้ายบทเรียนพร้อมเฉลยร่วมกัน
ขั้นสรุป
ครูและนักเรียนร่วมสรุปเนื้อหาเรื่องพืชและการขยายพันธ์พืช
สื่อการจัดการเรียนรู้
- ใบความรู้
- ใบงาน
-
รูปภาพและทางอินเตอร์เน็ต
สิ่งเสริมแรงที่ใช้
-
ปรบมือ
-
คำชม
การวัดผลประเมินผล
1 วิธีการวัดผล
- การสังเกต
- การตอบคำถาม
- ใบงาน
2 เครื่องมือที่ใช้
-
แบบฝึกหัด
3 เกณฑ์การประเมิน
-
ไม่ผ่าน นักเรียนไม่สามารถอธิบายส่วนประกอบของพืชและหน้าที่ต่างๆของพืชได้
-
ผ่าน นักเรียนสามารถอธิบายส่วนประกอบของพืชและหน้าที่ต่างๆของพืชได้
แผนการจัดการเรียนรู้เฉพาะบุคคล
(Individual Implementation
Plan : IIP)
ชื่อผู้เรียน นายเสกสรร สายศร ระดับ
ประถมศึกษา ประเภทความพิการ บกพร่องทางร่างกาย
ศูนย์
กศน.อำเภอ/เขต เมืองลำปาง สาระวิชา คณิตศาสตร์
วันเริ่มจัดกิจกรรมการเรียนรู้
1 พฤศจิกายน 2558 วันสิ้นสุดการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
29 กุมภาพันธ์ 2559
ครั้งที่ 4
สาระสำคัญ
จำนวนสองจำนวนที่นำมาบวกกัน
สามารถสลับที่กันได้ จะได้ผลบวกเท่ากัน เรียกว่า สมบัติการสลับที่ของการบวก
จำนวนสามจำนวนที่นำมาบวกกันจะบวกจำนวนที่หนึ่งกับจำนวนที่สองก่อน
หรือบวกจำนวนที่สองกับจำนวนที่สามก่อน แล้วจึงไปบวกกับจำนวนที่เหลือ
ผลบวกย่อมเท่ากัน เรียกว่า สมบัติการเปลี่ยนหมู่ของการบวก
เนื้อหา
สมบัติการสลับที่ของการบวก
จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม
นายเสกสรร สายศร
สามารถบวกและการลบจำนวนเต็มได้ 8 ข้อ จากทั้งหมด
10 ข้อ
กระบวนการจัดการเรียนรู้
ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน
1. ครูทักทาย“สวัสดี”และสอบถามทบทวนเนื้อหาเรื่องคาประจําหลักและคาของตัวเลขในสัปดาห์ที่ผ่านมาโดยการโชว์ตัวเลขที่เตรียมมาแล้วให้นักเรียนตอบ
2. ครูนำตัวเลขที่เตรียมมายกขึ้นโชว์เช่น
12 + 4 = 4 + 12 = พร้อมให้นักเรียนเขียนประโยคการบวกในกระดาษที่แจกให้
จากนั้นร่วมกันตรวจสอบความถูกต้องพร้อมกับอธิบายถึงสมบัติการสลับที่ของการบวก
3. ครูนำแบบทดสอบก่อนเรียนให้นักเรียนทำ
ขั้นจัดกิจกรรมการเรียนรู้
1. ครูแจกใบความรู้เรื่องการบวกและการลบให้กับนักเรียนพร้อมกับอธิบายการบวกที่มีผลบวกเท่ากันและใช้สมบัติการสลับที่
ของการบวก
2. ครูเขียนการบวกบนกระดานเช่น 825 + 47 = ...... + 825 แล้วให้นักเรียนเติมจำนวนที่ทำให้ผลบวกเท่ากัน
นักเรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง
3. ครูเขียนตัวเลขการบวกบนกระดานเช่น 84 + 17 + 36
= ........ แล้วถามนักเรียนว่าควรบวกจำนวนคู่ใดก่อน (84 + 36) ต้องทำอย่างไรจึงจะทราบว่าบวกจำนวน
84 กับ 36 ก่อน (ใส่วงเล็บ)
เขียนเป็นประโยคการบวกได้
((84
+ 36) + 17 = …… )พร้อมกับเขียนแสดงวิธีหาคำตอบได้ ดังตัวอย่างเช่น 84 + 17 + 36 =
(84 + 36) + 17
= 120 + 17=
137
4.ครูแจกใบงานพร้อมกับแบบฝึกหัดท้ายบทเรียน
ขั้นสรุป
ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเพื่อสรุปว่าจำนวนสองจำนวนที่นำมาบวกกัน
สามารถสลับที่กันได้โดยผลบวกยังเท่าเดิม เรียกว่า สมบัติการสลับที่ของการบวก
สื่อการจัดการเรียนรู้
-
ใบความรู้
- ใบงาน
- อินเตอร์เน็ต
- บัตรตัวเลข
สิ่งเสริมแรงที่ใช้
-
ปรบมือ
-
คำชม
การวัดผลประเมินผล
1 วิธีการวัดผล
- การสังเกต
- การตอบคำถาม
- ใบงาน
2 เครื่องมือที่ใช้
- แบบฝึกหัด
3 เกณฑ์การประเมิน
-
ไม่ผ่าน นักเรียนไม่สามารถบวกและการลบจำนวนเต็มได้
8 ข้อ จากทั้งหมด 10 ข้อ ได้
- ผ่าน นักเรียนสามารถบวกและการลบจำนวนเต็มได้ 8 ข้อ จากทั้งหมด 10 ข้อ ได้
แผนการจัดการเรียนรู้เฉพาะบุคคล
(Individual
Implementation Plan : IIP)
ชื่อผู้เรียน นายธีรพันธ์ เจตะบุตร ระดับ มัธยมศึกษาตอนต้น ประเภทความพิการ บกพร่องทางร่างกาย
ศูนย์
กศน.อำเภอ/เขต
เมืองลำปาง สาระวิชา คณิตศาตร์
วันเริ่มจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1
พฤศจิกายน 2558 วันสิ้นสุดการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
29 กุมภาพันธ์ 2559
ครั้งที่ 4
สาระสำคัญ
เรื่องของจำนวนและการดำเนินการเป็นหลักการเบื้องต้นที่เป็นพื้นฐานในการนำไปใช้ในชีวิตจริง
เกี่ยวกับการเปรียบเทียบ การบวกการลบ
การคูณ และการหาร
เนื้อหา
การบวก
การลบ การคูณ และการหารจํานวนเต็ม
จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม
นายธีรพันธ์ เจตะบุตร สามารถ บวก ลบ คูณ หาร จํานวนเต็มได้อย่างน้อย5
ข้อจากทั้งหมด 10 ข้อ
กระบวนการจัดการเรียนรู้
ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน
1. ครูทักทาย“สวัสดี”
2. ครูนำตัวเลขที่เตรียมมา เช่น 3 X 5 = 15 และ 3 X
-5 = -15 ถามนักเรียนว่าทำไมคำตอบถึงไม่เท่ากัน
3. ครูนำแบบทดสอบก่อนเรียนให้นักเรียนทดสอบ
ขั้นจัดกิจกรรมการเรียนรู้
1.
ครูแจกใบความรู้เรื่องการบวก การลบ
การคูณ และการหารจํานวนเต็ม
2.
ครูนำคอมพิวเตอร์เปิดให้ดูเรื่องการคูณจำนวนเต็มบวกและจำนวนเต็มลบ
3.
ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับเนื้อหาที่เรียนพร้อมให้นักเรียนจดบันทึกสูตรที่สำคัญ
4.
ครูนำใบงานมาแจกพร้อมทำแบบฝึกหัดท้ายบท
ขั้นสรุป
ครูและนักเรียนร่วมสรุปเนื้อหา
สื่อการจัดการเรียนรู้
-
ใบความรู้
- ใบงาน
-
รูปภาพและทางอินเตอร์เน็ต
สิ่งเสริมแรงที่ใช้
-
ปรบมือ
-
คำชม
การวัดผลประเมินผล
1 วิธีการวัดผล
- การสังเกต
- การตอบคำถาม
- ใบงาน
2 เครื่องมือที่ใช้
-
แบบฝึกหัด
3 เกณฑ์การประเมิน
-
ไม่ผ่าน นักเรียนไม่สามารถ บวก ลบ คูณ หาร จํานวนเต็มได้อย่างน้อย 5
ข้อจากทั้งหมด 10 ข้อ
-
ผ่าน นักเรียนสามารถ บวก ลบ คูณ หาร จํานวนเต็มได้อย่างน้อย 5
ข้อจากทั้งหมด 10 ข้อ
แผนการจัดการเรียนรู้เฉพาะบุคคล
(Individual
Implementation Plan : IIP)
ชื่อผู้เรียน น.ส.ณัฐฑิตา เป็นต้น ระดับ มัธยมศึกษาตอนต้น ประเภทความพิการ บกพร่องทางสติปัญญา
ศูนย์
กศน.อำเภอ/เขต
เมืองลำปาง สาระวิชา คณิตศาตร์
วันเริ่มจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1
พฤศจิกายน 2558 วันสิ้นสุดการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
29 กุมภาพันธ์ 2559
ครั้งที่ 4
สาระสำคัญ
เรื่องของจำนวนและการดำเนินการเป็นหลักการเบื้องต้นที่เป็นพื้นฐานในการนำไปใช้ในชีวิตจริง
เกี่ยวกับการเปรียบเทียบ การบวกการลบ
การคูณ และการหาร
เนื้อหา
การบวก
การลบ การคูณ และการหารจํานวนเต็ม
จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม
น.ส.ณัฐฑิตา เป็นต้น สามารถบวก ลบ คูณ หาร จํานวนเต็มได้อย่างน้อย
5 ข้อ จากทั้งหมด 10 ข้อ
กระบวนการจัดการเรียนรู้
ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน
1. ครูทักทาย“สวัสดี”
2. ครูนำสื่อตัวเลขที่เตรียมมา เช่น 3 + 5 = 8 และ 3 X
5 = 15 ถามนักเรียนว่าทำไมคำตอบถึงไม่เท่ากัน
3. ครูนำแบบทดสอบก่อนเรียนให้นักเรียนทดสอบ
ขั้นจัดกิจกรรมการเรียนรู้
1.
ครูแจกใบความรู้เรื่องการบวก การลบ
การคูณ และการหารจํานวนเต็ม
2.
ครูเขียนเลขจำนวนเต็มเช่น
123456789ให้นักเรียนดู
3.
ครูนำเลขจำนวนเต็มมาบวกกันแล้วนำมาคูณกันเช่น
2 + 2 =
4 และ 2 x 2 = 4 แล้วถามนักเรียนว่าทำไหมคำตอบถึงเท่ากัน
4.
ครูเขียนเลขจำนวนเต็มมาบวกกันแล้วนำมาคูณกันอีครั้งเช่น
2 + 3 =
5 และ 2 x 3 = 6 แล้วถามนักเรียนว่าทำไหมคำตอบถึงไม่เท่ากัน
5.
ครูนำใบงานมาแจกพร้อมทำแบบฝึกหัดท้ายบท
ขั้นสรุป
ครูและนักเรียนร่วมสรุปเนื้อหาการคูณจำนวนเต็มบวกและจำนวนเต็มลบ
สื่อการจัดการเรียนรู้
-
ใบความรู้
- ใบงาน
-
รูปภาพและทางอินเตอร์เน็ต
สิ่งเสริมแรงที่ใช้
-
ปรบมือ
-
คำชม
การวัดผลประเมินผล
1 วิธีการวัดผล
- การสังเกต
- การตอบคำถาม
- ใบงาน
2 เครื่องมือที่ใช้
-
แบบฝึกหัด
3 เกณฑ์การประเมิน
-
ไม่ผ่าน นักเรียนไม่สามารถ บวก ลบ คูณ หาร จํานวนเต็มได้อย่างน้อย 5
ข้อจากทั้งหมด 10 ข้อ
-
ผ่าน นักเรียนสามารถ บวก ลบ คูณ หาร จํานวนเต็มได้อย่างน้อย 5
ข้อจากทั้งหมด 10 ข้อ
แผนการจัดการเรียนรู้เฉพาะบุคคล
(Individual
Implementation Plan : IIP)
ชื่อผู้เรียน นายสมเดช จันทร์ยะเครือ ระดับ มัธยมศึกษาตอนต้น ประเภทความพิการ บกพร่องทางร่างกาย
ศูนย์
กศน.อำเภอ/เขต
เมืองลำปาง สาระวิชา คณิตศาตร์
วันเริ่มจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1
พฤศจิกายน 2558 วันสิ้นสุดการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
29 กุมภาพันธ์ 2559
ครั้งที่ 4
สาระสำคัญ
เรื่องของจำนวนและการดำเนินการเป็นหลักการเบื้องต้นที่เป็นพื้นฐานในการนำไปใช้ในชีวิตจริง
เกี่ยวกับการเปรียบเทียบ การบวกการลบ
การคูณ และการหาร
เนื้อหา
การบวก
การลบ การคูณ และการหารจํานวนเต็ม
จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม
นายสมเดช จันทร์ยะเครือ สามารถบวก ลบ คูณ หาร จํานวนเต็มได้อย่างน้อย
5 ข้อ จากทั้งหมด 10 ข้อ
กระบวนการจัดการเรียนรู้
ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน
1. ครูทักทาย“สวัสดี”
2. ครูนำตัวเลขที่เตรียมมา เช่น 3 X 5 = 15 และ 3 X
-5 = -15 ถามนักเรียนว่าทำไมคำตอบถึงไม่เท่ากัน
3. ครูนำแบบทดสอบก่อนเรียนให้นักเรียนทดสอบ
ขั้นจัดกิจกรรมการเรียนรู้
1.
ครูแจกใบความรู้เรื่องการบวก การลบ
การคูณ และการหารจํานวนเต็ม
2.
ครูนำคอมพิวเตอร์เปิดให้ดูเรื่องการคูณจำนวนเต็มบวกและจำนวนเต็มลบ
3.
ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับเนื้อหาที่เรียนพร้อมให้นักเรียนจดบันทึกสูตรที่สำคัญ
4.
ครูนำใบงานมาแจกพร้อมทำแบบฝึกหัดท้ายบท
ขั้นสรุป
ครูและนักเรียนร่วมสรุปเนื้อหาการคูณจำนวนเต็มบวกและจำนวนเต็มลบ
สื่อการจัดการเรียนรู้
-
ใบความรู้
- ใบงาน
-
รูปภาพและทางอินเตอร์เน็ต
สิ่งเสริมแรงที่ใช้
-
ปรบมือ
-
คำชม
การวัดผลประเมินผล
1 วิธีการวัดผล
- การสังเกต
- การตอบคำถาม
- ใบงาน
2 เครื่องมือที่ใช้
-
แบบฝึกหัด
3 เกณฑ์การประเมิน
-
ไม่ผ่าน นักเรียนไม่สามารถ บวก ลบ คูณ หาร จํานวนเต็มได้อย่างน้อย 5
ข้อจากทั้งหมด 10 ข้อ
-
ผ่าน นักเรียนสามารถ บวก ลบ คูณ หาร จํานวนเต็มได้อย่างน้อย 5 ข้อจากทั้งหมด
10 ข้อ
แผนการจัดการเรียนรู้เฉพาะบุคคล
(Individual
Implementation Plan : IIP)
ชื่อผู้เรียน น.ส.นาริน ปอนสืบ
ระดับ มัธยมศึกษาตอนปลายประเภทความพิการ บกพร่องทางพิการซ้ำซ้อน
ศูนย์
กศน.อำเภอ/เขต
เมืองลำปาง สาระวิชา การพัฒนาตนเองชุมชนสังคม
วันเริ่มจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1
พฤศจิกายน 2558 วันสิ้นสุดการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
29 กุมภาพันธ์ 2559
ครั้งที่ 4
สาระสำคัญ
สังคมไทยในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงอยางรวดเร็ว
ทั้ งในด้านข่าวสาร เศรษฐกิจ การประกอบอาชีพ และการดำเนินชีวิตในแต่ละวัน
การพิจารณาตัดสินใจในการดำเนินชีวิต หรือ ประกอบอาชีพ จําเป็นจะต้องใช้ ข้อมูลหลาย
ๆ ด้าน นำมาวิเคราะห์ข้อมูลเพือหาแนวโน้ม
เนื้อหา
การจัดเก็บข้อมูล
จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม
น.ส.นาริน ปอนสืบ สามรถบอกวิธีการจัดเก็บรวบรวมข้อมูลได้
กระบวนการจัดการเรียนรู้
ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน
1.
ครูทักทาย“สวัสดี”
2.
ครูได้นำตัวอย่างการจัดเก็บข้อมูลของหมู่บ้านแห่งหนึ่งให้นักเรียนดู
3.
ครูนำแบบทดสอบก่อนเรียนให้นักเรียนทำ
ขั้นจัดกิจกรรมการเรียนรู้
1.
ครูได้แจกใบความรู้เรื่องข้อมูลของตนเองและครอบครัวชุมชนและสังคมแล้วให้ศึกษาตามใบความรู้
2.
ครูได้แจกใบงานที่เตรียมมาให้กับนักเรียนทำ
3.
ครูและนักเรียนศึกษาใบความรู้เรื่องข้อมูลชุมชน
สังคม
4.
ครูแจกใบงานให้นักเรียนทำใบงานพร้อมเฉลย
ขั้นสรุป
ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเนื้อหา
สื่อการจัดการเรียนรู้
-
ใบความรู้
- ใบงาน
สิ่งเสริมแรงที่ใช้
-
ปรบมือ
-
คำชม
การวัดผลประเมินผล
1 วิธีการวัดผล
- การสังเกต
- การตอบคำถาม
- ใบงาน
2 เครื่องมือที่ใช้
-
แบบฝึกหัด
3 เกณฑ์การประเมิน
-
ไม่ผ่าน นักเรียนไม่สามารถบอกความหมาย ความสำคัญของการพัฒนาตนเอง ชุมชนและสังคมได้
และอธิบายหลักการพัฒนาตนเอง ชุมชน
และสังคมได้
-
ผ่าน นักเรียนสามารถบอกความหมาย ความสำคัญของการพัฒนาตนเอง ชุมชนและสังคมได้
และอธิบายหลักการพัฒนาตนเอง ชุมชน
และสังคมได้